Virtual Vintage Guitars Insurance ฟิล์มติดรถยนต์มีประเภทกี่ประเภท แต่ละประเภทมีความเหมือนหรือความต่างที่ตรงไหน

ฟิล์มติดรถยนต์มีประเภทกี่ประเภท แต่ละประเภทมีความเหมือนหรือความต่างที่ตรงไหน

ฟิล์มติดรถยนต์มีประเภทกี่ประเภท แต่ละประเภทมีความเหมือนหรือความต่างที่ตรงไหน post thumbnail image

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เหล่าสาวกคนรักรถต้องรู้ กับประเภทของฟิล์มติดรถยนต์ การจะติดฟิล์มรถยนต์ทั้งที มาดูวิธีเลือกฟิล์มรถยนต์ที่เหมาะสมกับราคาและคุณภาพดีกว่า ว่าฟิล์มติดรถยนต์นั้นมีประเภทใดบ้าง และแต่ละประเภทนั้นมีความเหมือนหรือความต่างที่ตรงไหน 

ทำความรู้จักกับประเภทของฟิล์มติดรถยนต์

  • ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทที่ 1 ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบปกติ (Dyed Window Tints)

เป็นฟิล์มติดรถยนต์แบบธรรมดาทั่วไป สามารถป้องกันรังสียูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดีในระดับหนึ่ง เนื่องจากตัวฟิล์มมีคุณสมบัติสะท้อนแสงจากภายนอกและลดปริมาณความร้อนสะสมได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งมีข้อดี คือ ราคาไม่สูงมากนัก แต่หากเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง สีของฟิล์มจะเริ่มซีดลง และมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วน หรือสร้างความเสียหายให้กับกระจกรถได้โดยง่าย

  • ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทที่ 2 ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบปรอท (Metallized Window Tints)

เป็นฟิล์มกรองแสงที่มีลักษณะแวววาว ความแวววาวมากหรือน้อยก็แล้วแต่กระบวนการผลิต โดยฟิล์มกรองแสงรถยนต์ประเภทนี้มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีและสะท้อนความร้อนได้ดี เนื่องจากตัวฟิล์มกรองแสงถูกย้อมด้วยสีที่มีส่วนผสมของโลหะที่จะถูกฝังอยู่ภายในชั้นของฟิล์ม ตัวฟิล์มจึงมีความแข็งแกร่ง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ แต่ข้อเสียของฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบปรอท คือ อาจทำให้อุปกรณ์ เช่น GPS หรือ Easy Pass ใช้งานได้ไม่สะดวกมากนัก

  • ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทที่ 3 ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบไฮบริด (Hybrid Window Tints)

ฟิล์มติดรถยนต์ที่มีการผสมระหว่างฟิล์มย้อมสีและฟิล์มสีเมทัลไลซ์ ที่มีส่วนผสมของโลหะอยู่ในชั้นฟิล์ม โดยมีคุณสมบัติกรองแสงได้ดี สีไม่ซีด และสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ แต่มีข้อเสีย คือ มีราคาที่ค่อนข้างสูง และไม่เป็นที่นิยมมากนัก

  • ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทที่ 4 ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบคาร์บอน (Carbon Window Tints)

ฟิล์มติดรถยนต์ที่มีลักษณะพื้นผิวด้าน โดยภายในเนื้อฟิล์มจะมีส่วนผสมของอนุภาคคาร์บอนสะท้อนแสงพิเศษ ซึ่งให้คุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี มีความทนทานสูง สามารถกักเก็บความร้อนได้ดี แต่ในประเทศไทยอาจไม่เหมาะเท่าไรนัก

อย่างไรก็ตาม นอกจากฟิล์มติดรถยนต์จะสำคัญต่อตัวรถยนต์แล้ว การมีประกันภัยชั้น 1 ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยสามารถเช็คเบี้ยประกันได้ตามเว็บไซต์ที่เป็นโบรกเกอร์ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าในไทยก็มีอยู่หลากหลายเจ้ากันเลยทีเดียว โดยเว็บไซต์ของแต่ละเจ้านั้น ต่างก็มีมีฟังก์ชันการเช็คเบี้ยประกัน โดยสามารถเช็คเบี้ยประกันของเจ้าต่างๆ ที่สนใจกันในเบื้องต้นก่อนได้เลย